สิ่งที่ต้องมีเมื่อคุณไม่มีแต้มต่อในชีวิต คุณก็เก่งแบบพระเอกโชเน็นได้นะ!
-อะไรที่ทำให้คนที่ทำอาหารไม่เป็น
จนอายุ 40 กลายเป็นเชฟได้
-อะไรที่ทำให้เด็กไม่เอาไหน
กลายเป็นโฮคาเงะได้
-อะไรที่ทำให้เด็กธรรมดา
กลายเป็นฮีโร่ได้
Angela Duckworth ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ได้อธิบายว่าสิ่งที่ทำให้คนประสบความสำเร็จ
ไม่ใช่ IQ หรือพรสวรรค์อย่างที่เคยเชื่อกัน แต่มันคือสิ่งที่เรียกว่า Grit หรือ ความทรหด
มันคือการการพยายามทำงานอย่างหนัก มุ่งมั่นตั้งใจ ฟื้นตัวจากความล้มเหลวได้ไว และเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่าตัวเองต้องการอะไร อดทนทำสิ่งที่ควรทำแม้จะไม่อยากทำก็ตาม
Grit ซึ่งเป็นการผสมผสานกันระหว่าง ความหลงใหลและความอุตสาหะ จนบรรลุเป้าหมายระยะยาว แม้ว่าคุณจะไม่มีพรสวรรค์ และแม้จะต้องเริ่มจากติดลบก็ตาม
แล้วถ้าพูดถึงความทรหดอดทน ความหลงใหล ความพยายาม ความเชื่อว่าตัวเองจะทำได้ ความไม่ย่อท้อต่ออะไรง่ายๆ มันไม่มีอะไร relate ไปกว่าเจ้าพวกพระเอกการ์ตูนโชเน็นแล้ว! ในที่นี้ขอยกตัวอย่างการ์ตูน 3 เรื่อง 3 สไตล์แต่เขามุ่งมั่นกันจนเกือบตาย(แบบจะตายจริงๆนะ) เพื่อทำความฝันให้เป็นจริงต่อ
1. อุซึมากิ นารูโตะ (Naruto Shippuden)
It’s not over when you lose, it’s over when you give up.
เด็กกำพร้าต้องสาปแห่งหมู่บ้านนินจาที่ทุกคนเอือมระอาเพราะพฤติกรรมที่ค่อยข้างเกเร
ของเขา ผลการเรียนก็อยู่ในระดับล่างๆ ใช้คาถานินจาก็ไม่ได้เรื่อง พูดง่ายๆ ก็นับเป็นเด็กมีปัญหาคนนึง
2. ฮินาตะ โชโยว (Haikyuu!)
“The Future belongs to those
who believe in the beauty of dreams”
เด็กม.ปลายปี 1 ที่หวังจะเป็นผู้เล่นวอลเล่ย์บอลที่เก่งกาจคนนึง ซึ่งด้วยส่วนสูงเพียง 164 ซม. นับว่าเสียเปรียบมากๆ โดยเขามีไอดอลเป็นผู้เล่นที่ได้ฉายาว่า “Small Giant” ที่ถึงแม้จะตัวเล็กแต่ฝีมือการเล่นจัดว่าระดับตำนาน
3. มิโดริยะ อิซึคุ (Boku No Hero Academia)
" Don’t worry about what other people think.
Hold your head up high and plunge forward”
มาถึงเหล่าจักรวาลฮีโร่กันบ้าง กับพระเอกของเรื่อง มิโดริยะ เด็กหนุ่มที่ฝันอยากเป็นฮีโร่สุดแกร่งเหมือนกับไอดอลของเขา “All Might” แต่โชคดันไม่เข้าข้างเมื่อพบว่าเขาเกิดมาพร้อมกับไม่มีอัตลักษณ์ใด ๆ (คือความสามารถพิเศษเหนือธรรมชาติที่ติดตัวมาแต่กำเนิด) พูดอีกที เขาเป็นคนธรรมดาๆ เท่านั้นเอง
คุณสมบัติของเด็กหนุ่มข้างต้นมีตั้งแต่ศูนย์จนยันติดลบ ตั้งแต่เด็กไม่เอาไหน เด็กที่สรีระร่างกายไม่เอื้อต่อการเล่นกีฬา เด็กที่ไม่มีคุณสมบัติพอ แล้วเอายึดเอาทฤษฎีของหนังสือเล่มนี้เป็นแกนกลางถอดรหัสความสำเร็จ เราจะพบว่าพวกเขาค่อยๆสร้างความทรหด เพื่อทดแทนแต้มต่อที่พวกเขาขาดหายไป
จากหนังสือAngela ได้บอกว่าความทรหดสามารถสร้างได้จากการฝึกฝน หลักๆ สร้างได้ 2 วิธีคือ
1. สร้าง Grit ภายในสู่ภายนอก
โดยพัฒนาความสนใจ ใช้เวลาในแต่ละวันฝึกทำสิ่งที่ท้าทายเกินทักษะที่คุณมี และเรียนรู้ที่จะมีความหวังในสถานการณ์ที่มืดมน
นารูโตะ เขาฝันอยากเป็นโฮคาเงะ และอยากให้ทุกคนในหมู่บ้านยอมรับเขา แม้เขาจะไม่เก่งสักอย่างใช้คาถาอะไรก็แทบจะไม่ได้เลย แต่ด้วยความพยายามในทุกๆวันทำให้เขาสามารถค่อยๆควบคุมจักระ(ประมาณพลังลมปราณ) ได้ ซึ่งขอบอกเลยว่าไม่ง่ายเลย
ฮินาตะ แน่นอนเขาฝันอยากเอยากเป็นเอชของทีมเหมือน Small Giant ซึ่งหลังจากจบม.ต้น และแพ้อย่างราบคาบให้กับทีมของ “คาเงยามะ โทบิโอะ” ฮินาตะได้ประกาศศึกว่าจะเอาชนะ. คาเงยามะให้ได้ในสักวัน โดยอย่าลืมว่าส่วนสูงของเขาก็เป็นข้อเสียเปรียบในการเล่นวอลเล่ห์อยู่ดี ก่อนจะขึ้นม.ปลาย ฮินาตะได้ฝึกร่างกายเพื่อเตรียมความพร้อม เขาวิ่งทุกวัน เข้าไปฝึกกับทีมวอลเล่ย์บอลหญิง และปั่นจักรยานขึ้นเขาเพื่อไปเรียนทุกวัน
มิโดริยะ แม้จะไม่มีอัตลักษณ์ติดตัวมา แต่ด้วยโชคช่วย เพราะเขาบังเอิญได้รับสืบทอดพลัง “One For All”จากAll Might ทำให้เขามีคุณสมบัติที่จะเป็นฮีโร่ได้ แต่การจะใช้พลังอันมหาศาลนั้น มันทำให้ร่างกายของเขาแทบจะรับไม่ไหว ดังนั้นเขาจึงต้องเทรนร่างกาย และฝึกทักษะอย่างหนักเพื่อให้สามารถใช้พลังนี้ปกป้องคนได้ แม้จะยังถูกเพื่อนอย่าง “คัตจัง” พูดจาถากถางเรื่องความสามารถเสมอๆก็ตาม
2. สร้าง Grit จากภายนอกสู่ภายใน
โดยอาศัยคนรอบตัวอื่น เช่น พ่อแม่ โค้ช ครู เพื่อนๆ
“มีหลายช่วงในชีวิตการทำงานที่ฉันอยากยอมแพ้แล้วหันไปทำอย่างอื่นที่ง่ายกว่า แต่จะมีใครสักคนเสมอที่บอกฉันไม่ทางใดทางหนึ่งว่าให้สู้ต่อ ฉันคิดว่าทุกคนจำเป็นต้องมีคนแบบนั้นคุณว่าไหม”
-รอนดา ผู้ที่ที่ได้รับการแนะนำจากอาจารย์จนเป็นนักคณิตศาสตร์ได้
นารูโตะ สำหรับนารูโตะเขาโชคดีมากที่มีคนรอบตัวsupport และก็เชื่อใจเขา เช่นครูอิรุกะ แม้ในวันที่คนทั้งหมู่บ้านรังเกียจเขาก็ยังมีครูอิรุกะที่อยู่ข้างๆ คอยเลี้ยงราเม็ง อยู่ข้างๆ และเอ็นดูเหมือนเป็นน้องชาย จริงๆ นารูโตะมีครูดีหลายคนมากเลยทั้งจิไรยะ คาคาชิ แต่สำหรับเรา เราอยากยกเครดิตส่วนใหญ่ให้ครูอิรุกะ เพราะเป็นคนที่แทบจะชุบชูใจนารูโตะในตอนที่ไม่มีใครจริงๆ mental health สำคัญนะสำหรับการเติบโตมาเป็นคนแกร่งคนนึง
ฮินาตะ หลังจากที่ฮินาตะเข้ามาอยู่ชมรมวอลเล่ย์ม.ปลาย เขาได้เจอผู้คนที่เก่งและพยายามไม่ต่างจากเขา ซึ่งทักษะการเล่นของฮินาตะจำเป็นต้องพัฒนาต่ออีกเยอะมากๆ เพราะต้องมาเล่นผสานกับคู่แข่งอย่างคาเงะยามะ แต่โชคดีที่เพื่อนในทีมนี้ทุกคนคอยเป็นทั้งกำลังใจ แนะนำ ขู่ขวัญให้กันและกันเสมอ ที่สำคัญฮินาตะไม่กลัวที่จะล้มเหลว กระตือรือร้น จากทั้งในทีมและคู่แข่ง
“หากคุณมองการแข่งขันในแง่ที่ว่าใครแข่งแพ้ใครชนะ คุณกำลังหลงประเด็น...คนที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามนี่แหละที่เป็นคนช่วยให้พวกเราเป็นพวกเรา คู่แข่งที่สร้างความท้าทายจะช่วยให้เราพัฒนาขึ้นเป็นตัวเราในแบบที่ดีที่สุด”
-พีท โค้ชอเมริกันฟุตบอลทีมซีฮอร์กที่นำทีมคว้าแชมป์Super Bowl
มิโดริยะ หลังจาดได้เข้าโรงเรียนสำหรับฝึกฮีโร่ และได้เจอเพื่อนฮีโร่เก่งๆอยู่รอบตัว เมื่อสภาพแวดล้อมรอบล้อมไปด้วยคนเก่งที่พร้อมจะพัฒนาตัวเองหนักขึ้นไปอีก ทั้งพยายามจัดเวลาเพื่อเรียน ฝึกหนัก ไหนจะการพยายามวิเคราะห์พลังของฮีโร่แต่ละคนลงสมุดอยู่เสมอ จนตอนนี้เขาได้แสดงความสามารถจนเป็นที่ยอมรับแล้ว!
ตอนจบของทั้ง 3 ตัวละคร จริงๆก็ไม่สปอยล์เท่าไรแต่ก็ขอบอกเลยว่าทั้ง 3 คนมีช่วงเวลาดี ๆ แน่นอน (เพราะนารูโตะและไฮคิวได้จบลงอย่างสวยงามแล้ว^^)
ดังนั้นเราจะไม่ตอบคำถามด้านบนแล้วว่าในหนังสือเขานำเสนอคนอายุ 30 เป็นเชฟได้ยัง เพราะเราอยากให้คุณไปหาหนังสือเล่มนี้อ่านเองมากกว่า แต่สิ่งที่เราอยากถามก็คือ
-อะไรที่ทำให้นารูโตะ ได้เป็น โฮคาเงะอย่างที่ฝัน
-อะไรที่ทำให้ฮินาตะ ได้เป็น ผู้เล่นวอลเล่ย์บอลอาชีพ
-อะไรที่ทำให้มิโดริยะ ได้เป็น ฮีโร่ที่ทุกคนยอมรับแล้วนะ!
แน่นอนมันมีหลายปัจจัย ความบังเอิญ โชคดี จังหวะชีวิตก็ด้วย เราจะไม่เคลมว่ามันมีสูตรสำเร็จเดียว
แต่สิ่งที่ทั้ง 3 คนมีร่วมกัน และคุณเองก็มีได้นะ หากคุณยินดีลงมือทำ มันก็คือความทรหดยังไงล่ะ !
Comments